เทคนิคการท่องคาถาให้เกิดผลจริงๆ ที่คนสมัยนี้ไม่เคยรู้ เพราะอะไรละรู้หรือเปล่า?
เทคนิคการท่องคาถาให้เกิดผลจริงๆ ที่คนสมัยนี้ไม่เคยรู้เพราะจิตใจมัวแต่ฟุ้งซ่าน นั่งสมาธิเมื่อใหร่ จิตก้ไม่เคยว่าง ฝึกอย่างไรจิตก็ไม่นิ่ง สมาธิก็เลยไม่เกิด สวดมนต์บทใหน ท่องคาถาอะไรที่เขาบอกว่าดีนักแล ก็ไม่เห็นผลซักที ผมเลยได้ศึกษาหาข้อมูลจากคนรุ่นเก่า และพระอาจารที่ท่านเก่งกล้าในพระธรรมและได้ เทคนิคนี้ที่ท่านเปิดเผย คือเทคนิคที่ว่านี้คือ #ให้กลั้นใจแล้วท่องคาถา ในขณะที่กลั้นใจนั้นแหละครับ
ได้ผลชัวร์ ส่วนจะได้มากน้อยก็อยู่ที่ว่า ในขณะที่กลั้นใจนั้น สมาธิของคุณนิ่งแค่ไหน ถ้าคนต่างจังหวัดคงเคยเห็น สมัยก่อนพ่อครูหรือผู้ที่ศึกษาวิชาแก่กล้า เขาจะหลับตากลั้นหายใจท่องคาถารวดเดียวจนจบคาถาหรือจบบทไปเลย สวนคนสมัยนี้อาจจะแค่ท่องๆ ตามตำราที่อ่านมา บางคำก็ท่องผิดๆถูกๆ และจิตก็ยังไม่ยังนิ่งเลยไม่ได้ผล คุณลองท่องคาถาซักบทโดยกลันหายใจท่องไปจนจะหมดลมดู ในขณะที่คุณกลั้นใจนั้น จิตคุณนิ่งเป็นสมาธิแน่นอน แต่จะอยู่ที่ระดับไหนเท่านั้นเอง
ขอยกคำสอนของพระอาจารย์ที่ท่านได้เคยพูดถึงเรื่องนี้ไว้มาให้อ่านกันนะครับ ท่านบอกไว้ดังนี้ครับ
"ในเรื่องของคาถา ถ้าจะว่าไปแล้ว นักปฏิบัติธรรมทุกคนควรจะซักซ้อมการใช้พระคาถาต่าง ๆ ไว้ เพราะว่าเรื่องของคาถาให้ผลง่าย แค่อารมณ์ใจของเราสูงกว่าอุปจารสมาธินิดหนึ่งก็เริ่มให้ผลแล้ว เขาเรียกว่า อุปจารฌาน คืออารมณ์ใจเริ่มทรงตัวแน่วแน่ ตอนนั้นความฟุ้งซ่านไม่มี จิตก็เริ่มมีกำลัง
ดังนั้น..จะเห็นว่าถ้าจะใช้คาถาแบบโบราณ ๆ คาถาหลายบทท่านให้กลั้นใจว่า อย่างเช่นกลั้นใจว่า ๓ จบ ๗ จบ ๙ จบ ตอนที่เรากลั้นใจจิตจะนิ่ง ไม่นิ่งก็ไม่ได้เพราะจะตายอยู่แล้ว เนื่องจากไม่หายใจ พอจิตนิ่งก็จะเกิดพลังขึ้นมา ถ้าเราทำคาถาใดคาถาหนึ่งแล้วเกิดผล เราจะเกิดความมั่นใจ พอเกิดความมั่นใจ ก็เอากำลังระดับนั้นไปใช้กับคาถาทุกบท จะได้ผลเหมือนกันหมด ทุกคาถา
แต่คราวนี้คาถาที่ได้ผลนั้นเกิดจาก ๒ สาเหตุ อาตมาค่อนข้างจะค้นคว้ามาเยอะ สมัยก่อนหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านหลอกให้ทำโน่นทำนี่ บทโน้นก็ดีลูก บทนี้ก็ดีลูก ว่าไปเรื่อย แล้วก็ไปรายงานท่านเวลาทำได้ผลแล้ว คาถาที่ได้ผลเกิดจาก ๒ สาเหตุ สาเหตุแรก..จิตเรานิ่งพอ สมาธิทรงตัวพอ เกิดผล..แต่ว่าเกิดในระดับหนึ่งเท่านั้น ไม่เต็มที่ คาถาจะเกิดผลอย่างเต็มที่ต้องเข้าใจแตกฉานในตัวคาถานั้นด้วย
ถ้าใครเคยอ่านประวัติหลวงปู่ปาน หลวงพ่อวัดท่าซุง ท่านบอกไว้ว่าท่านโดนผีกดมือไว้ กดมือซ้าย พอเอื้อมมือขวาไปหยิบหวาย ผีก็กดมือขวาไว้ เป่าคาถาใส่ผีก็บอกว่า "กูไม่กลัว มึงท่องได้ครึ่งเดียว" ท้ายสุดหลวงพ่อท่านบอกว่าไม่มีที่พึ่งแล้ว มานึกขึ้นได้ว่า ๓ โลกนี้ไม่มีใครเหนือกว่าพระพุทธเจ้าอีกแล้ว ในเมื่อไม่มีใครเหนือกว่าพระพุทธเจ้าอีกแล้ว ผีก็ไม่มีทางเหนือที่จะกว่าพระพุทธเจ้าได้ เพราะฉะนั้น..เราขอพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง แล้วท่านก็ว่า "พุทโธ" เป่าทีเดียวผีหกคะเมนไปเลย
![]() |
หลวงปู่พุก อุตฺตมปาโล เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน องค์ที่1 |
ที่มา : วัดท่าขนุน