พลังจิตของการทำบุญ และการอนุโมทนา บุญความดี ที่เห็นผลเร็วทันใจ
พลังจิตของการทำบุญ และการอนุโมทนา บุญความดี ที่เห็นผลเร็วทันใจ
ถ้าจะพูดถึงเรื่องการทำบุญ ทำทาน และแม้แต่ แค่เพียงอนุโมทนาบุญ เราก้ได้ผลบุญ ผลกุศลนั้นไปด้วย แต่เมื่อเราไปวัดหรือไปใส่บาตร ทำบุญเราคงได้ยินพระที่วัด หรือโฆษก มัคทายกตามวัดต่างๆ พูดเชียร์ให้เราทำบุญตามกำลังศัทธา เชิญร่วมทำบุญที่วัด สร้างอุโบสถ ช่วยกันสร้างคนละเล็ก คนละน้อย ไม่ว่าใครก็สามารถทำได้ ทำเล็กๆ น้อยๆ ตามกำลังศัทธา ทำมากก็ได้บุญมาก ทำบุญน้อยก็ได้น้อย แบบนี้เป็นต้น
คนเราพอได้ฟังเช่นนี้ ศีล5 ที่ไม่ครบ ยังไม่มีสติ ที่จะพิจารณา ปัญญาก็ยังไม่รู้แจ้ง ต่างก็พากันควักกระเป๋าใส่ตู้ ใส่ซองให้วัด ให้พระ พร้อมหวังว่าจะทำบุญปลดหนี้ ปลดสินให้ตัวเอง หรือหวังเพียงว่าจะได้สววรค์สมบัติ เผื่อชาติหน้าจะได้เกิดมาไม่อับจน หรือยากจน
การทำบุญที่เห็นบ้านเราทำกันอยู่ทุกวันนี้ บางคนมีมากก็ทำมาก เพราะหวังจะได้บุญมาก บางคนมีน้อยก็ทำน้อย แต่คนทำบุญมากๆ แต่กลับได้บุญน้อย คนทำบุญน้อยๆ หรือแค่อนุโมทนาบุญ ก็ยังได้บุญมากๆ เพราะอะไร?
เพราะจิตในการให้ การถวาย ไม่บริสุทธินั่นเอง คำว่าจิตไม่บริสุทธิ เป็นเช่นไร?
1. จิตที่เคลืบแคลงสงสัย ว่าวัดเอาเงินไปทำอะไร พระจะเอาเงินไปทำอะไร
2. จิตที่ให้ไปและหวังว่า จะได้กลับคืนมา หลายเท่า
3. จิตที่ไม่บริสุทธิ์ ทำเพื่อหวังให้มีหน้ามีตา ประทับชื่อตามศาลา ตามกำแพง เป็นเกรียติต่อวงตระกูล
จิตในการทำบุญ และอนุโมทนาบุญ ที่จะได้ผลบุญมาก และกุศลแรงเต็มกำลัง คือจิตที่ต้องพร้อมที่จะให้ และไม่หวังที่จะรับคืน จึงจะเป็นบุญที่สะสมในจิตของเราโดยแท้
1. จิตที่เคลือบแคลงสงสัย ทำไปก็ไม่มีความสุข เพราะจิตไม่บริสุทธิ์
2. จิตที่ให้ไปและหวังจะได้กลับคืนมา ทำไปก็ไม่มีผลเพราะจิตเต็มเคลือบไปด้วยความโลภ
3. จิตที่ให้ไปเพื่อหวังให้มีหน้ามีตา ให้วัดอ่านชื่อ ติดป้ายประทับป้ายตามศาลา ตามกำแพง
การทำบุญที่จิตไม่บริสุทธิ์แบบนี้ เมื่อตายไปท่านก็ไปยืนเฝ้ากำแพง เฝ้าศาลา เมื่อจะไปเกิดก็มีห่วงทรัพย์สมบัติ เฝ้ากำแพง เฝ้าศาลา เฝ้าที่เฝ้าทาง เฝ้าบุญที่ตนได้ถวายออกไป เมื่อกลับชาติมาก็กลับมาเกิดเป็นยาม เป็น รปภ. เป็นทหารเฝ้าวัง กว่าจะหลุดพ้น กว่าสุขสะบายท่านได้เสพผลบุญของท่าน
ท่านก็ต้องได้รับผลกรรมก่อน กรรมของการ หลงผิดในชื่อเสียง ลาภ ยศ เงินทองที่บริจาคให้ไป ด้วยความสงสัย ด้วยความหวังผล และต้องรับใช้จนกว่าจะหมดเสียก่อน ก่อนจะได้เสพผลกุศลของการทำบุญของท่าน เพราะเคยมี รปภ.ท่านหนึ่ง ทำนาก็ยากจน เข้ากรุงเทพมาก็มาเป็น รปภ.และกว่าจะเก็บเงินได้ ไปทำธุระกิจของตัวเอง ล้มลุกคลุกคลาน จนกว่าจะรวย
เห็นใหม? หลายคนผิดหวังกับคำว่า ทำบุญแล้ว ทำไมยังไม่เห็นผล ไม่ได้รับผล เมื่อทำแล้วไม่ได้ก็โทษเทพ เทวดา โทษฟ้าโทษฝน แต่ลืมโทษตนเอง ที่มีจิตไม่บริสุทธิ์
ท่านก็ต้องได้รับผลกรรมก่อน กรรมของการ หลงผิดในชื่อเสียง ลาภ ยศ เงินทองที่บริจาคให้ไป ด้วยความสงสัย ด้วยความหวังผล และต้องรับใช้จนกว่าจะหมดเสียก่อน ก่อนจะได้เสพผลกุศลของการทำบุญของท่าน เพราะเคยมี รปภ.ท่านหนึ่ง ทำนาก็ยากจน เข้ากรุงเทพมาก็มาเป็น รปภ.และกว่าจะเก็บเงินได้ ไปทำธุระกิจของตัวเอง ล้มลุกคลุกคลาน จนกว่าจะรวย
เห็นใหม? หลายคนผิดหวังกับคำว่า ทำบุญแล้ว ทำไมยังไม่เห็นผล ไม่ได้รับผล เมื่อทำแล้วไม่ได้ก็โทษเทพ เทวดา โทษฟ้าโทษฝน แต่ลืมโทษตนเอง ที่มีจิตไม่บริสุทธิ์
พลังจิตของ การทำบุญ คือจิตที่บริสุทธิ ไม่คิดหวัง คิดจะได้ในสิ่งใด ทำด้วยใจปราถนา เมื่อทำแล้วก็ยินดี ปิติสุข ในผลบุญ และเมื่อทำบุญทำกุศลเสร็จแล้ว จึงค่อยแผ่เมตตาให้ตัวเอง เจ้ากรรมนายเวร เทพ เทวดา ผู้ปกปักรักษาตัวเรา และแผ่เมตาให้สรรพสัตว์ทั้งหลาย เพื่อให้จิตใจได้มีเมตตา ได้รับรู้ถึงจิตแห่งการแบ่งปัน
ผลของการทำบุญ ด้วยทรัพย์ภายนอก แม้จะเห็นผลจริงก็ตาม แต่เมื่อได้ทรัพย์มาเราก็จะได้เพียงแค่สำผัส ได้มาก็ต้องใช้ออกไป เหมือนการลงทุนใช้เงินต่อเงิน เหมือนลงทุนซื้อของมาขายนั่นแหระ ต้องทำบ่อยๆ หมุนเวียนบ่อยๆ จึงจะได้โภคทรัพย์จึงจะเพิ่มพูน
ผลของการทำบุญด้วยทรัพย์ภายใน นั่นคือ การทำสมาธิ การฝึกสติ การทำจิตให้มีพลัง แข็งแก่รง ทรัพย์ที่ได้คือ อริยะทรัพย์ ที่เพียงคิดสิงใดก็ได้สิ่งนั้น สมหวังปราถนา จิตใจปราถนาสิงใด สิ่งนั้นก็มา ทรัพย์ไม่ต้องหาเอง มีคนหามาให้ ตายไปเกิดในสววรค์ชั้นสูง ไม่มีจิตให้ห่วง เนรมิตสิงใดในจิต ก็ได้ตามต้องการ เหาะเหินไปที่ใดก็ได้ ไม่มีผลกรรมที่ยึดติด และเหนี่ยวรั้ง

เมื่อกลับชาติมาเกิด จะเป็นผู้มีสติ มีปัญญาดี มีทรัพย์สววรค์ติดตัวมาแต่เกิด(ได้เกิดในตระกูลชั้นสูง) ผู้บริหาร เมื่อเติบโตได้ทำงานที่ใช้ แต่ปัญญา ใช้แค่ความคิด เป็นนักบริหาร เจ้าของกิจการ ก็มีโภคทรัพย์มาถึงที่ไม่ต้องดิ้นรนมากมาย ใช้สติปัญญา หาเงิน คนที่หมั่นทำสมาธิ หมั่นฝึกสติ เหล่านี้มักจะได้เป็นใหญ่เป็นโตง่ายๆ ไม่ต้องใช้แรง ใช้แค่ปัญญา เกิดมาก็เรียนเก่ง หางานง่าย ลาออกไปก็เป็นนักบริหาร เพราะผลบุญกุศลจากการหมั่นฝึกสมาธิ สติ และใช้ปัญญา